คัพเค้ก
เค้กช็อกโกแลต
แป้งเค้ก 3 ช้อนโต๊ะ
- ถ้วยมัค (ถ้วยกาแฟใบใหญ่) เป็นกระเบื้องจะดีมากค่ะ
- ช้อนส้อมเอาไว้คนส่วนผสม
- ช้อนตวง
- ไมโครเวฟ
- - เอาแป้งเค้ก น้ำตาลทรายป่น ผงโกโก้ เบกกิ้งโซดา เกลือ มาคลุกรวมกันในถ้วยกาแฟ
- - ใส่ไข่ไก่ แล้วคนให้ให้ทุกอย่างเข้ากัน คนให้แรงๆเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันหน่อยนะคะ
- - เติมน้ำมันพืช นมสด และกลิ่นวานิลลาลงไปแล้วกวนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
- - เติมช็อคโกแลตชิพหรือชอคโกแลตบาร์หั่นลงไปตามใจชอบ ถ้าใส่เยอะเนื้อเค้กจะเหลวและนิ่มมากขึ้น
- - อาจจะเติมพวกถั่วแมคคาเดเมีย พิทาชิโอ อัลมอนด์ หรือลูกเกดลงไปด้วยก็ได้
- - เอาไปเข้าไมโครเวฟความร้อนสูงสุด ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที แล้วแต่ความแรงของไมโครเวฟ และความชอบของคนกิน ถ้าชอบเนื้อเค้กนิ่มๆ ก็ไม่ต้องเวฟนานมาก เอาแค่พอหน้าเค้กดูสุกดีก็ใช้ได้ แต่ถ้าชอบเนื้อเค้กแน่นๆ เผื่อจะเอาไปราดทอปปิ้งเพิ่มก็เวฟนานขึ้นหน่อยค่ะ
เค้กกาแฟ
ส่วนผสม สำหรับ 4 ปอนด์
1. แป้งเค้ก ตรา "พัดโบก" 100 กรัม +ผงฟู 3/4 ชช.
(ร่อนรวมกัน)
2. นมข้นจืด 30 กรัม + ผงกาแฟ 2ชต.+กลิ่นกาแฟ 1ชช(เวฟรวมกัน
15วิ)
3. เนยสดละลายอุ่น 70 กรัม (เวฟ 1.5 นาที)
4. น้ำตาลทราย 120 กรัม +
เกลือ 1/4 ชช +น้ำเปล่า 40กรัม
5. ไข่ไก่ใหญ่ 3 ฟอง
6. สารเสริม SP 10 กรัม
(ชั่งด้วยค่ะ อย่ากะเอง)
วิธีทำ :-
1. วอร์มเตา เตาแก๊ส 180ซี
เตาไฟฟ้าเล็กวีรสุ 160ซี รองพิมพ์ด้วยกระดาษไข
2. ใช้เครื่องตีไข่5ลิตร
กับหัวตีรูปตะกร้อ
3. ใส่เอสพี น้ำ นมในอ่าง
ใช้พายยางบี้ๆเอสพีให้กระจายตัวละลายเข้ากัน
ใส่น้ำตาลทราย เกลือ ไข่ไก่
ใส่รวมกันในอ่าง ใช้พายยางคนให้เข้ากัน
ตีต่ำเบอร์สอง 1 นาทีจนน้ำตาลละลาย
ใส่แป้งใช้พายยางคนให้เข้ากัน
4. นำไปตีต่ำเบอร์สอง 1นาที
ปาดก้นอ่างคนให้เข้ากัน
ตีปานกลางเบอร์หก 5นาที ปาดก้นอ่างคนให้เข้ากัน
ส่วนผสมจะข้นเหนียวไม่หยด
5. ตักส่วนผสม 1/4 ของอ่าง มาใส่ชามเนยละลาย
ใช้พายยางคนเร็วๆจนเข้ากัน
แล้วเทกลับไปในอ่าง
6.ตีต่ำเบอร์สอง 1 นาที ปาด
ตีต่ำเบอร์ต่ำสุด 1 นาที ตัดฟองอากาศจนเนียน ปาด
7. เทใส่พิมพ์กลม 1/2
พิมพ์เพื่อเวลาอบเค้กจะปีนขอบขึ้นมาได้
อบ 180ซี 25-30 นาที
(ถ้าอบแล้วเกรียมเกินรอบหน้าให้ลดไฟจนสีพอดี)
อบเสร็จคว่ำพิมพ์บนตะแกรง 10 นาที
แซะออกจากพิมพ์ พักให้เย็นบนตะแกรง
วนิลาเค้ก
Banana cake
ส่วนประสม
แป้งเอนกประสงค์ 2 1/2 ถ้วย
ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1/4 ช้อนชา
เนยจืด 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วย
น้ำตาลทรายแดง 3/4 ถ้วย
ไข่ 2 ฟอง
กล้วยสุกงอมบด 4 ลูก
วานิลลา 1 ช้อนชา
บัตเตอร์มิลค์ 2/3 ถ้วย หรือนมสด บีบมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
ถั่ววอลนัทอบแล้ว 1/2 ถ้วย (ถ้าชอบ)
วิธีทำ
เปิดเตาอบไว้ที่ 350 F (175 C)
เตรียมพิมพ์กลมขนาด 8 นิ้ว สองพิมพ์
หรือพิมพ์โลฟขนาด 8 นิ้ว สองพิมพ์
ทาไขมัน โรยด้วยแป้งและเคาะออก พัำกไว้
1. ร่อนแป้ง ผงฟู และเกลือ พักไว้
2. ใช้หัวตีใบไม้ตีเนย ใส่น้ำตาลสองแบบ ให้ฟูเบา
3. ค่อย ๆ ใส่ไข่ทีละฟอง ตีให้เข้ากัน
4. ใส่กล้วยบดและวานิลลา
5. ใส่แป้ง (โดยแบ่งแป้งด้วยสายตาเป็นสามส่วน)ผสมให้เข้ากััน
สลับกับใส่บัตเตอร์ิมิล์ค (กะให้เทได้สองครั้ง)คนตะล่อมให้เข้ากัน
เป็นการเริ่มด้วยแป้ง นม แป้ง นม และจบด้วยแป้ง
6. ถ้าชอบถั่ว ก็ใส่ถั่วได้ตอนนี้นะคะ
7. นำส่วนผสมใส่พิมพ์ อบนานประมาณ 30 นาที
หรือจนเค้กสุกดี เอาไม้จิ้มฟันจิ้มแล้วออกมาสะอาด
orenge cake
กรัม
ช้อนชา
กรัม
ช้อนชา
กรัม
กรัม
ฟอง
กรัม
กรัม
ช้อนชา
กรัม
กรัม
กรัม
กรัม
กรัม
- 1
- ร่อนแป้ง ผงฟู พักไว้
- 2
- เอสพีปาดที่หัวตะกร้อ น้ำตาลทราย เกลือ น้ำ ไข่ไก่ ตีด้วยความเร็วต่ำจนน้ำตาลทรายละลายหมด
- 4
- ตีให้เข้ากันด้วยวามเร็วต่ำประมาณ 1 นาที หมั่นปาดอ่าง
carrot cake
1 แป้งเค้ก 500 กรัม (5 ถ้วย+4ชต.)
2 อบเชย 4 ชช.
3.ผงฟู 4 ชช
4. เบกกิ้งโซดา 2 ชช.
5. นมผง 3 ชต.
6. เกลือ 2 ชช
7. ไข่ไก่(เบอร์ 1 ) 4 ฟอง
8. น้ำมันพืช 360 กรัม
9. กลิ่นวนิลา 2 ชช
10. แครอทขูดฟอย 360 กรัม (แครอทนี่ผมแยแบบขูดละเอียด 2ส่วน แบบหยาบ 1 ส่วน)
11. ลูกเกดดำ 100 กรัม
12. ถั่วแมคคาเดเมีย 100 กรัม (ทำขายผมใช้ เม็ดมะม่วงหิมพานต์แทน)
13. น้ำตาลทราย 500 กรัม
วิธีทำครับ
1 ร่อนแป้ง ผงพู เบกกิ้งโซดา อบเชย 2ครั้ง แล้วใส่เกลือ พักไว้
2 ตีไข่ กับน้ำตาลทราย (ผมใช้แค่ 450 กรัน เพราะมีลูกค้าบอกว่าหวานไป) จนขึ้นฟูขาวด้วยหัวตีตระกร้อ ใส่กลิ่นวานิลา แล้วค่อยๆเทน้ำมันพร้อมตีไปด้วย (ขั้นตอนนี้เลยต้องใช้ 2 คน) ตีจนเข้ากัน
3 เอาส่วนผสมแป้งค่อยๆใส่ลงในส่วนผสมไข่ คนตะล่อมไปเรื่อยๆ (ลักษณะจะเหนียวมากเลยตอนแป้งใกล้หมด) พอคนตะล่อมแป้งจนหมดแล้วก็ใส่แครอทขูดฟอยลงไป (ขั้นตอนนี้อาจบีบน้ำออกจากแครอทออกไปนิดหน่อย น้ำที่บีบได้ก็เก็บไว้ก่อน)คนผสมให้เข้ากันน้ำในแครอทจะทำให้เหลวขึ้น แล้วใส่ลูกเกดกับถั่วลงไปคนให้เข้ากันดี
4 เทใส่พิมพ็ขนาด 10*12 นิ้ว (ตามสูตรให้ทาพิมพ์และเคาะแป้งแต่ไม่ดีครับ ไม่ต้องทาพิมพ์ รองกระดาษไขดีกว่าเพราะขอบเค้กจะขึ้นดีกว่า) อบที่ 170 อาศา ซ. 40 นาที แต่ผมใช้ที่ 175-180 45 นาที สีเนื้อเค้กจะสวยกว่า ผมใช้เตาอบไฟฟ้าของฟาร์กอครับ
พออบเสร็จก็เอาออกมาคว่ำบนตะแกรงจนเกือบเย็นก็เอาพิมพ์ออก หงายหน้าเค้กรอเย็น (ตอนรก็ตีวิปครีมเตรียมทาหน้าครับ)
พอเค้กเย็นก็ทาด้วยวิปครีม แล้วเอาไปแช่ตู้เย็น ให้เซตตัว 1 ชั่วโมง แล้วเอามาตัดใส่กล่องอ่ะครับ ได้ 20 ชิ้น
ผมขายอยู่ที่กล่องละ 38 บาท (1 กล่อง 2 ชิ้น) พอหักต้นทุน ค่าน้ำค่าไฟฟ้าแล้ว กำไรแค่ 80 บาทเอง ผมเลยว่าจะขายเตาอบไฟฟ้าที่ใช้อยู่หละครับเพิ่งซื้อมาแค่ 2 เดือนกว่าเอง ว่าจะเอาเงินที่ขายเตาได้ไปซื้อเตาอบแบบแกสครับ ใครสนใจเตามือ 2 บอกนะครับ ผมขายให้ 9000 เอง ตอนซื้อมา เกือบ 15000ครับผมเอง ชิตพล
blueberry cheese pie
9 large rectangular graham crackers (around 1 1/2 cups), crushed
2 tablespoons sugar
6 tablespoons melted butter
For the Cheese Custard:
8 oz. cream cheese, softened
1/3 cup sugar
1 teaspoon vanilla extract
2 eggs
Freshly grated zest from 1 lemon
For the Berries:
2 cups blueberries, rinsed
½ cup water
1/3 cup sugar
1 ½ tablespoons cornstarch mixed with 2 tablespoons cold water
DIRECTIONS:
Preheat the oven to 325 degrees. In a small bowl, combine the crushed graham crackers, sugar and butter. Pat the crumb mixture into a 9-inch pie pan and bake for 8 minutes, until very lightly browned and set. Let the crust cool completely before filling. Leave the oven on.
Meanwhile make the cheese custard: in a medium bowl, combine the cream cheese, sugar, and vanilla and beat until thoroughly mixed and smooth. Add the eggs and beat well. Stir in the lemon zest. Pour into the cooled shell and bake until just set, 25-30 minutes. Remove from the oven and let cool completely.
While the custard is baking, combine the berries, water, and sugar in a medium saucepan and bring to a boil. Reduce the heat and simmer, covered, for 5 minutes, stirring once or twice to prevent sticking. Remove from the heat and add the cornstarch mixture. Return to a boil and cook for one minute, stirring constantly, until the mixture is thickened. Remove from the heat and cool until tepid.
Spoon the berries over the custard. Chill for at least one hour before serving