BAKERY

ส่วนผสม	ปริมาณ
แป้งข้าวเจ้า	200 กรัม
แป้งมัน	75 กรัม
มะพร้าว(ทึนทึก)ขูด	100 กรัม
ฟักทองนึ่งสุกแล้วนำมาบด	100 กรัม
หัวกะทิ	1 1/2 ถ้วย
เกลือป่น	1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย	400 กรัม
มะพร้าวขูด	450 กรัม
มะพร้าวทึนทึกขูด 100 กรัม คลุกกับเกลือป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
1.เตรียมส่วนผสมในการทำขนมให้พร้อม
2.นำส่วนผสมมานวดรวมกัน จนเข้ากัน
3.ตักหยอดลงในถาดหรือใบตอง นำไปนึ่งน้ำเดือดประมาณ 15 นาที เมื่อเสร็จยกลงมาพักให้เย็น
4.แคะออกจากถ้วยจัดใส่ภาชนะให้สวยงาม
-หมายเหตุ
1.ควรเลือกฟักทองที่มีสีเหลืองเข้ม แล้วมีเนื้อเหนียวพอสมควร
2.แป้งที่นวดต้องดูว่าเนื้อฟักทองเหนียวมากน้อยแค่ไหน ถ้าเนื้อไม่เหนียวก้อควรต้องลดกะทิลง
3.ถ้านึ่งด้วยถาดพักให้ขนมเย็นแล้วตัดเป็นชิ้นเล็กๆคลุกด้วยมะพร้าวขูด

ส่วนผสม	ปริมาณ
ไข่ไก่	20 ฟอง
ไข่เป็ด	10 ฟอง
น้ำ	3 ถ้วย
น้ำตาลทราย	6 ถ้วย
ใบเตย	3 ใบ

วิธีทำ
1 ตอกไข่เป็ดและไข่ไก่ลงชามแยกไข่ขาวออกจากไข่แดง
2 นำไข่แดงที่ได้มาตีให้เนื้อฟูละเอียด
3 ใบเตย น้ำ น้ำตาล ใส่กะทะตั้งไฟจนน้ำตาลละลายเป็นน้ำเชื่อมตักใส่อ่าง
4 นำน้ำเชื่อมตั้งไฟ เคี่ยวจนเป็นยางมะตูม
5 ปิดไฟให้น้ำเชื่อมนิ่งแล้วหยอดไข่ลงไปในน้ำเชื่อมเป็นแผ่นกลมขนาดประมาณ 1 นิ้ว ครึ่ง
6 เปิดไฟอีกครั้งให้น้ำเชื่อมเดือดแล้วกลับขนมไปอีกด้านหนึ่ง
7 รอจนกระทั้งเห็นว่าไข่สุกแล้วให้ตักขึ้นมาใส่ชามน้ำเชื่อมเพื่อให้ขนมอุ่น
8 พอเห็นว่าอุ่นแล้วให้นำมาจับทำเป็นจีบ ตามใจชอบโดยส่วนมากที่นิยมคือ 5 จีบแล้วใส่ในถ้วยให้ขนมคงรูป
9 เมื่อเห็นว่าขนมคงรูปจีบที่ทำไว้แล้วให้แคะออกใส่จานพร้อมรับประทาน
-หมายเหตุ
- ไข่แดงที่แยกมาไม่ควรให้มีไข่ขาวติดมาด้วย เพราะถ้าติดมาจะทำให้ขนมไม่อยู่ตัว
- ควรหยอดให้มีขนาดที่สามารถใส่ในถ้วยได้
- แนะนำให้ตีไข่ให้ฟูถ้าตีด้วยมือประมาณ 15 นาที ถ้าใช้เครื่องประมาณ 7 นาที
- น้ำเชื่อมที่เคี่ยวควรเคี่ยวให้มีลักษณะเป็นยางมะตูม ไม่ควรให้ข้นมากจนเกินไปเพราะไม่เช่นนั้นขนมที่ได้จะมีเนื้อทีแข็ง

ส่วนผสม	ปริมาณ
ไข่ไก่(เฉพาะไข่แดง)	12 ฟอง
แป้งสาลี	3 1/4 ถ้วย
น้ำตาลทราย	400 กรัม
กะทิ	2 ถ้วย
*มะพร้าวขูด 400 กรัม คั้นเอาหางกะทิิ 1 ถ้วย และหัวกะทิ 1 1/2 ถ้วย
สีผสมอาหาร ( สีเหลือง)	1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
1 นำแป้งสาลีไปคั่วให้สุกด้วยไฟอ่อน
2 ผสมน้ำกะทิ และไข่แดงเข้าด้วยกัน ใส่น้ำตาลคนจนกว่าน้ำตาลจะละลาย แล้วใส่สีผสมอาหารให้เข้ากัน
3 นำส่วนผสมที่ได้มากรองด้วยกระชอนแล้วใส่กระทะทอง
4 กวนส่วนผสมในกระทะทองด้วยไฟอ่อนจนเห็นว่าข้น แล้วใส่แป้งกวนจนแป้งแห้งเสร็จแล้วยกออกพักให้เย็น
5 นำมาอบด้วยควันเทียนเพื่อให้มีกลิ่นหอม
6 ปั้นขนมเป็นก้อนกลมและให้มีผิวเรียบ และตกแต่งขั้วลูกจันทร์โดยนำแป้ง 2 ช้อนโต๊ะมานวดกับสีน้ำตาลแล้วปั้นเป็นก้อนเล็กๆวางตรงกลางลูกจันทร์
- หมายเหตุ
- ไข่ไก่ที่ใช้ควรเป็นไข่ที่สดใหม่
- แป้งที่ผสมกับไข่แดงและกะทิ ควรนำมมากรองด้วยกระชอนเพื่อไม่ให้จับตัวเป็นก้อน
- ก่อนจะปั้นแป้งเป็นก้อนกลมควรนวดให้เนียนก่อน

ส่วนผสมแป้งทั้ง 3 สี	ปริมาณ
ส่วนผสมสีเหลือง
แป้งข้าวเหนียว	200 กรัม
แป้งมัน	1/4 ถ้วย
ฟักทองนึ่งบด	200 กรัม
น้ำ	4 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมสีม่วง
แป้งข้าวเหนียว	200 กรัม
แป้งมัน	1/4 ถ้วย
เผือกนึ่งบด	200 กรัม
น้ำ	1/2 ถ้วย
ส่วนผสมสีเขียว
แป้งข้าวเหนียว	2 1/2 ถ้วย
แป้งมัน	1/4 ถ้วย
น้ำใบเตย	3/4 ถ้วย
ส่วนผสมน้ำเชื่อม
น้ำลอยด้วยดอกมะลิ	4 ถ้วย
น้ำตาลทราย	1 กิโลกรัม
ส่วนผสมกะทิราดหน้า
หัวกะทิ	1.2 กิโลกรัม
เกลือ	2 ช้อนชา

วิธีทำ
1 เตรียมส่วนผสมของการทำแป้งแต่ละสี คือถ้าเป็นสีเหลืองให้นำแป้งข้าวเหนียวและแป้งมันผสมใส่ฟักทองคลุกเคล้าให้ เข้ากัน ใส่น้ำตามลงไปเพื่อให้แป้งนิ่มตัวและเป็นสีเหลือง ในส่วนของสีเขียวและสีม่วงทำเหมือนการทำแป้งสีเหลือง เพียงเปลี่ยนส่วนผสมที่ทำให้เป็นสีเขียวได้จาก น้ำใบเตย และ สีม่วงได้จากเผือก
2 นำแป้งที่ผสมสีแล้วมาปั้นแบ่งเป็นก้อนเล็กกลมๆ
3 ในกระทะทองตั้งไฟรอให้น้ำเดือด แล้วใส่แป้งที่ปั้นได้ลงไปต้ม เมื่อสุกแป้งจะลอยตัวขึ้นมา
4 นำแป้งต้มสุกทั้ง 3 สีไปแช่ในน้ำเย็นเพื่อไม่ให้ติดกัน
5 ทำน้ำเชื่อมโดยเคี่ยวน้ำและน้ำตาลเข้าด้วยกันบนไฟจนเห็นว่าน้ำตาลละลายแล้วยกลงมา
6 นำกะทิละลายผสมกับเกลือและแป้งข้าวโพด ตั้งไฟกวนบนกระทะทองจนข้น แล้วยกลง
7 ก่อนนำขนมไปเสริฟควรทำตามขั้นตอนนี้คือ ตักบัวลอยลงใส่ถ้วยก่อน ตามด้วยน้ำเชื่อม แล้วราดด้วยน้ำกะทิ
- หมายเหตุ
- การเติมน้ำลงไปนวด จะช่วยให้แป้งนุ่มนวดง่ายไม่เละ
- สังเกตุเวลาต้มควรต้มแค่พอสุกแล้วตักออกมาแช่น้ำไว้
- กะทิเวลาเคี่ยวควรใช้ไฟอ่อนเพราะจะได้กะทิที่มีลักษณะข้น

ส่วนผสม	ปริมาณ
ไข่เป็ด	20 ฟอง
ถ้่วเขียวแบบเราะเปลือกออก	500 กรัม
น้ำตาลทราย	300 กรัม
เทียนอบ
หัวกะทิ(จากมะพร้าวขูด 6 ขีด)	3 ถ้วย
ส่วนผสมของน้ำเชื่อม
น้ำ	4 ถ้วย
น้ำตาลทราย	1 กก.
ใบเตย	3 ใบ

วิธีทำ
1 นำถ้่วเขียวเราะเปลือกแล้ว 1/2 กก. ล้างน้ำให้สะอาดและแช่ในน้ำทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เสร็จแล้วนำมานึ่งและบด
2 นำถั่วเขียวบดที่ได้มาผสมกับกะทิและน้ำตาล
3 นำส่วนผสมที่ได้ใส่ในกระทะทองกวนจนกว่าถั่วแห้ง แล้วพักให้เย็นนำมาปั้นเป็นก้อนรี
4 นำถั่วก้อนรีที่ได้ไปอบควันเทียนให้มีกลิ่นหอมประมาณ20นาที
5 แยกไข่ขาวออกจากไข่แดง แล้วนำไข่แดงคนให้เข้ากันหลังจากนั้นนำไข่มากรองด้วยผ้าขาวเพื่อขจัดเยื่อหุ้มไข่แดงออก
6 น้ำ น้ำตาล และใบเตยมาเคี่ยวจนเห็นว่าเป็นยางมะตูมแล้วให้ตักใบเตยออก
7 นำถั่วที่อบควันเทียนแล้วมาชุบไข่แล้วใส่ลงในน้ำเชื่อมที่ตั้งไฟจนไข่สุกแล้วตักออกใส่จาน
-หมายเหตุ
- การชุบไข่ควรยกน้ำเชื่อมออกจากเตาไฟก่อนเพื่อให้เม็ดขนุนไม่เละ

ส่วนผสม	ชั่ง ตวง	น้ำหนักกรัม
แป้งข้าวเจ้า	2 ถ้วย	200
แป้งมัน	1 ช้อนโต๊ะ	8
น้ำตาลทราย	1 ถ้วย	200
น้ำลอยดอกมะลิ	1 1/4 ถ้วย	380
สีผสมอาหาร

วิธีทำ
1 นำแป้งข้าวเจ้าตวงแล้วผสมกับแป้งมันให้เข้ากัน
2 เติมน้ำตาลทรายลงในแป้ง
3 ค่อยๆรินน้ำลงไปนวดสังเกตุดูจนกระทั้่งน้ำตาลละลาย แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง
4 แบ่งเป็นส่วนๆเพื่อใส่สีตามใจชอบ
5 ใส่น้ำในลังถุงประมาณ 3ใน4 ใช้ไฟแรงให้น้ำเดือด นำถ้วยใส่ขนมไปนึ่งให้ร้อนก่อน แล้วตักขนมใส่ถ้วยนี่งต่ออีกประมาณ 12 นาที เสร็จยกออกพักให้เย็นลงแล้วแคะขนมออกจากถ้วย
-หมายเหตุ
การทำขนมชนิดนี้แนะนำให้ใช้แป้งข้าวเจ้าเก่าเพื่อหน้าขนมจะได้บุ๋ม
หยอดขนมลงในถ้วยก่อนนำไปนึ่งต้องหยอดให้เต็มถ้วยขนม
แป้งควรนวดใช้เวลาพอดีๆไม่นานเกินไป เพราะขนมจะไม่บุ๋ม

ส่วนผสม	ปริมาณ
ไข่ไก่	10 ฟอง
ไข่เป็ด	10 ฟอง
น้ำค้างของไข่	4 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย	1 กก.
น้ำมะนาว	1 ช้อนชา
น้ำ	3 ถ้วย
น้ำมันพืช	4 ช้อนชา
ใบเตย	5 ใบ

วิธีทำ
1 นำไข่เป็ดไข่ไก่มาแยกไข่ขาวออกจากไข่แดง และเอาเยื่อหุ้มไข่แดงออกให้หมด
2 แยกน้ำค้างไข่คือไข่ขาวที่ค้างเหลืออยู่ที่เปลือกเทแยกใส่ภาชนะไว้
3 น้ำค้างไข่ ไข่แดงและน้ำมันพืชคนให้เข้ากันแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง
4 น้ำตาลและน้ำใส่กระทะตั้งไฟ ใส่ใบเตยลงไป แล้วจนกว่าน้ำตาลละลาย ปรับระดับไฟให้แรงบริเวณตรงกลางกระทะ หลังจากนั้นเอาใบเตยออกมาแล้วเติมน้ำมะนาวในกระทะคนให้เข้ากัน
5 นำไข่ที่ได้ใส่กรวยแล้วโรยลงในน้ำเชื่อมวนรอบกระทะ 15-20 รอบ ถ้าแพใหญ่ก้อโรยวนหลายรอบ
6 โรยส่ายขนมลงในน้ำเชื่อมพยายามให้เส้นฝอยทองโรยเรียงเส้นทับกันเป็นแพให้สวยงาม แล้วจัดเรียงใส่จาน
-หมายเหตุ
- ขนมฝอยทองควรเลือกไข่ใหม่
- น้ำค้างไข่จะช่วยให้ไข่แดงลดความเข้มข้นลงเพื่อให้โรยเป็นเส้นได้ง่ายไม่ขาด
- การผสมไข่ไก่ลงกับไข่เป็ดเพื่อให้เส้นฝอยทองนุ่ม
- ใบเตยเป็นส่วนผสมที่ดับกลิ่นคาวของไข่
- น้ำมันพืชเป็นส่วนผสมให้ขนมดูเป็นเงา
- เทคนิคการโรยเส้นขนมฝอยทองคือต้องโรยอย่างสม่ำเสมอกันเพราะจะทำให้เส้นเท่ากันและไม่ขาด

ส่วนผสม	ปริมาณ
ถั่วเขียวไม่มีเปลือก	500 กรัม
กะทิ(มะพร้าวขูด 8 ขีด ได้หัวกะทิ 3 ถ้วย หางกะทิ 1 ถ้วย )	4 ถ้วย
น้ำตาลทราย	600 กรัม
เทียนอบ	1 แท่ง
ส่วนผสมทำวุ้น
วุ้นผง	25 กรัม
น้ำ	7 ถ้วย
น้ำตาลทราย	100 กรัม
กลิ่นมะลิ	1/2 ช้อนชา
สีผสมอาหาร(ระบายสีก่อนชุบวุ้น)

วิธีทำ
1 นำถั่วมาล้างน้ำให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วนำไปนึ่งให้สุก
2 นำถั่วที่นึ่งเสร็จแล้วมาผสมกับน้ำกะทิ น้ำตาลทราย
3 นำส่วนผสมที่ได้ไปเข้าเครื่องปั่นจนถั่วละเอียด
4 นำไปใส่ในกระทะทองกวนด้วยไฟระดับปานกลาง กวนไปเรื่อยๆจนถั่วแห้ง เสร็จแล้วยกลงพักให้เย็น แล้วนำไปอบควันเทียน
5 นำมาปั้นเป็นรูปผลไม้ต่างๆตามใจชอบ
6 ระบายสีปักบนโฟมทิ้งไว้จนสีแห้ง
7 เตรียมส่วนผสมของวุ้นสำหรับชุบขนม คือ วุ้นผง น้ำ ตั้งไฟจนกว่าวุ้นจะละลาย แล้วใส่น้ำตาลเคี่ยวให้เดือดจนเห็นว่าน้ำตาลละลายจึงยกลง
8 นำถั่วที่ระบายสีแล้วชุบลงในวุ้น 4 รอบ จนเห็นว่าขนมมีความเงาและมัน แล้วปลดออกจากไม้จิ้ม
- หมายเหตุ
- ถั่วที่กวนในกระทะทอง ควรกวนให้แห้งไม่ติดกระทะ
- วุ้นที่เคี่ยวในขณะชุบต้องใช้หม้อตุ๋น เพื่อจะทำให้วุ้นนั้นไม่แข็งตัว
- ขั้นตอนการชุบถั่วลงในวุ้นควรชุบจนเห็นว่าขนมมีลักษณะมันเงา
- สีที่ระบายบนถั่วควรระบายสีให้ใกล้เคียวกับของจริงมากที่สุด

ครื่องปรุง + ส่วนผสม ขนมหวานไทย

* แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วยตวง * แป้งท้าวยายม่อม 2 ถ้วยตวง * น้ำตาลทราย 5 ถ้วยตวง * น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วยตวง * กะทิ 6 ถ้วยตวง * น้ำดอกอัญชัญ 2 ช้อนโต๊ะ  (หรือน้ำใบเตยคั้นสด,    หรือใช้สีผสมอาหารตามแต่สีที่ต้องการ)

      วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
6. นึ่งจนขนมสุกทั้งหมด แล้วยกลงทิ้งไว้ให้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมงจึงตัดเป็นชิ้นเพื่อเสริฟ (เคล็ดลับ : ก่อนที่จะเทแป้งเพื่อทำชั้นต่อไปทุกครั้ง จะต้องแน่ใจว่าขนมในชั้นล่างนั้นสุกแล้วจริง ๆ ไม่เช่นนั้น แป้งชั้นนั้นจะไม่สุกเลย ถึงแม้จะใช้เวลานึ่งนานเท่าใดก็ตาม)

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

+ ส่วนผสมตัววุ้น + * วุ้นผง 2 ช้อนโต๊ะ * น้ำเปล่า 5 1/2 ถ้วยตวง * น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง * น้ำใบเตย,น้ำกาแฟ หรือสีผสมอาหาร (จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้)

+ ส่วนผสมหน้าวุ้น + * วุ้นผง 2 ช้อนโต๊ะ * น้ำมะพร้าว 2 1/2 ถ้วยตวง * น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง * หัวกะทิ 2 1/2 ถ้วยตวง * แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ * เกลือ 1 1/2 ช้อนชา * แม่พิมพ์สำหรับใส่วุ้น (ถ้วยหรือชามเล็กๆ ก็สามารถใช้แทนกันได้)

      วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน

ขนมอาลัว

ส่วนผสม	ปริมาณ
มะพร้าวขูดสีขาว	1 กก.
แป้งสาลี	3 1/2 ขีด
น้ำตาลทราย	3 1/2 ขีด
น้ำตาลโตนด	2 ถ้วย
สีผสมอาหาร
น้ำลอยดอกมะลิ

วิธีทำ
1 นำแป้งสาลีมาร่อนแล้วอบด้วยควันเทียนไว้ 1 คืน
2 นำมะพร้าวที่เตรียมไว้มาคั้นเอากะทิ โดยไม่ต้องเติมน้ำ เมื่อคั้นได้แล้วให้เติมน้ำลอยดอกมะลิลงไปให้ได้กะทิ 5 ถ้วย
3 นำแป้งกับกะทิมาผสมให้เข้ากัน เสร็จแล้วนำไปกรองใส่กะทะทอง ตั้งไฟปานกลางกวนให้เร็ว จนแป้งสุกใสไม่เป็นลูก จึงใส่น้ำตาลทรายตามลงไปกวนด้วยไฟเบาๆ แล้วใส่สีผสมอาหารที่เตรียมไว้ โดยมากใช้สีชมพู และเขียวอ่อนหรือตามใจชอบ
4 กวนไปเรื่อยโดยใช้ไฟอ่อนไปเรื่อยๆให้อุณหภูมิลดลง ยกลงจากเตา ทิ้งไว้ให้อุ่นซักพัก แล้วหยอดขนมลงในถาด ให้ขนมมียอดแหลมลักษณะเหมือนหยอดทองหยอด ขนาดให้ได้ประมาณเหรียญบาทกำลังดี หยอดหมดแล้วนำไปตากแดดประมาณ 2-4 แดด จนสังเกตุด้านนอกเป็นเกลียวขาวนวล อย่าลืมกลับให้ด้านล่างโดนแดดด้วย พอเห็นว่าน้ำตาลขึ้นเป็นเกล็ดแล้วให้นำไปอบด้วยควันเทียนอีกรอบหนึ่ง
- หมายเหตุ
อาลัวเป็นขนมที่มีลักษณะข้างนอกแห้งนวลเกล็ดน้ำตาลแต่ข้างในนุ่มเป็นยางมะตูม